• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 

🎯งานทดสอบความหนาแน่นของชั้นดิน🌏 การทดสอบความหนาแน่นของดินในสนาม✅

Started by Cindy700, Jul 18, 2024, 08:06 PM

Previous topic - Next topic

Cindy700

การตรวจสอบความหนาแน่นของดินในสนาม เพื่อเปรียบเทียบกับความหนาแน่นที่ได้จากการทดสอบในห้องแล็บ จุดประสงค์ของการทดสอบ เพื่อประเมินความหนาแน่นของดินในสนาม ว่าหลังจากการบดอัดแล้ว พื้นที่นั้นสามารถรับน้ำหนักตามที่กำหนดได้หรือไม่

โดยทั่วไปการทดสอบหาค่าความหนาแน่นแห้งของดิน คือ การหาค่าความหนาแน่นเปียกและปริมาณความชื้นในดิน ในการทดสอบหาค่าความหนาแน่นของดินในสนาม จะมีอยู่ด้วยกัน สามวิธี คือ

🛒🛒🛒1. วิธีกรวยทรายวิธีนี้อาศัยทรายช่วยในการหาปริมาตรของหลุมโดยทรายที่ใช้คือ ทราย Ottawa ซึ่งขนาดของเม็ดทรายจะมีลักษณะกลมและมีขนาดเท่าเท่ากัน (Uniform) หรือจะใช้ทรายที่ผ่านการร่อนตามมาตรฐาน เพื่อที่จะให้ผลของความหนาแน่นที่เท่ากันโดยตลอดและไม่เกิดการแยกตัวของเม็ดหยาบและเม็ดเล็ก (Segregation) ขณะทำการทดสอบ
✅✅✅2. วิธีลูกโป่งยางวิธีนี้ใช้น้ำในการหาปริมาตรของหลุม ซึ่งสะดวกและรวดเร็วกว่า ในการทดสอบต้องใช้ลมในการบีบอัดน้ำลงไปในหลุมทดสอบ ลมที่อัดลงไปนี้มีส่วนช่วยให้น้ำในลูกโป่งอัดแนบสนิทกับก้นหลุม ทำให้ได้ค่าปริมาตรของหลุมที่ถูกต้องและแม่นยำยิ่งขึ้น
🦖🦖🦖3. วิธีนิวเคลียร์เป็นการหาค่าความหนาแน่นของดินและปริมาณความชื้นของดินบดอัดแห้ง หาค่าความหนาแน่นเปียก โดยใช้รังสีแกมม่าส่งผ่านดินที่ต้องการ ก่อนที่จะไปเข้าเครื่องรับรังสี ถ้ารังสีสะท้อนกลับไปเครื่องรับมาก แสดงว่าดินมีความหนาแน่นสูง ส่วนการหาปริมาณความชื้นโดยใช้นิวตรอน (Newtron)ส่งผ่านเข้าไปในดินและสะท้อนไปยังเครื่องรับช้าแสดงว่าปริมาณน้ำในมวลดินมีมาก วิธีนี้จะสะดวกและรวดเร็วให้ผลเป็นที่น่าพอใจ แต่สิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายสูง
✨👉🥇⚡
Quoteบริการ Boring Test | บริษัท เอ็กซ์เพิร์ท ซอยล์ เซอร์วิส แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด
บริษัท Boring Test บริการ เจาะสํารวจดิน วิเคราะห์และทดสอบคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมปฐพีของดิน ทดสอบเสาเข็ม (Seismic Test)

👉 Tel: 064 702 4996
👉 Line ID: @exesoil
👉 Facebook: https://www.facebook.com/exesoiltest/
👉 เว็บไซต์: เจาะสำรวจดิน.com
📢🎯📌🛒
การก่อสร้างทางหลวง สนามบิน เขื่อนดิน พื้นที่โรงงานต่างๆ จะต้องบดอัดด้วยเครื่องมือต่างๆ ตามชนิดและประเภทของวัสดุที่นำมาใช้ในการก่อสร้าง หลังจากการบดอัดแล้ว ต้องตรวจสอบว่าดินมีความหนาแน่นตามที่ออกแบบ เช่น งานชั้นรองพื้นทาง (subbase) ชั้นพื้นทาง (base) จะต้องบดอัดให้ได้ 100% งานชั้นดินเดิม และดินถมจะต้องบดอัดให้ได้ 95% การบดอัดนี้จะต้องมีการควบคุมความชื้นในดินและพลังงานที่จะใช้ในการบดอัดให้พอเพียงและประหยัด ถ้าบดอัดมากไปจะสิ้นเปลือง แต่ถ้าบดอัดน้อยไปจะไม่ถึงความแน่นที่ต้องการ

การหาความแน่นของดิน คือ การหาน้ำหนักของดินในบริเวณที่บดอัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว หารด้วยปริมาตรของหลุมที่ขุดดินออกมา และการที่จะหาปริมาตรของหลุมที่กล่าวนี้ จำเป็นจะต้องวัดหรือใช้วัสดุที่รู้ความแน่น (density) และความถ่วงจำเพาะแน่นอน แล้วไปแทนที่ในหลุมที่ขุดดินขึ้นมา ซึ่งการทดสอบดังกล่าวอาจกระทำได้โดยวิธีใช้ทรายมาตรฐาน (Sand Cone Method) ช่วยในการทดสอบหรือใช้น้ำ (Balloon Density Method) ทั้งสองวิธีนี้ต่างก็อาศัยหลักอันเดียวกัน

✨✨✨ขั้นตอนการทดสอบ การทดสอบความหนาแน่นในสนาม👉👉👉

📌🦖🎯1. ปรับพื้นผิวทดสอบให้เรียบขนาด 450×450 เซนติเมตร จากนั้นก็วางแผ่นฐานรองและตอกตะปูยึดให้แน่น ปัดฝุ่นที่ผิวดินและแผ่นฐานออก
✅👉📢2. ใช้สกัด เจาะดินบริเวณตรงกลางแผ่นฐานรองให้มีความลึกประมาณ 10-15 เซนติเมตร และก้นหลุมที่เจาะจะต้องมีขนาดเท่ากับปากหลุมเจาะดินที่ขุดจากหลุมจะต้องเก็บให้หมดโดยใช้ช้อนเล็กตัก ใช้แปรงปัดเศษดินในกรณีเหลือดินน้อย
📢🌏⚡3. นำดินที่ได้จากการขุดมาชั่งและจดบันทึกค่าไว้หลังจากนั้น นำดินส่วนหนึ่งที่ขุดได้ไปชั่งเสร็จแล้วนำตัวอย่างดินส่วนหนึ่งไปหาค่าปริมาณความชื้น
⚡✨🥇4. คว่ำกรวยทรายที่เตรียมไว้ลงบนปากหลุม เปิดวาล์ว ระวังอย่าให้กระทบกระเทือน
📢🌏⚡5. เมื่อทรายหยุดไหล ปิดวาล์วและนำทรายที่เหลือในกรวยไปชั่งน้ำหนักพร้อมกรวย และบันทึกค่า
🛒📌🦖6. นำทรายในหลุมใส่กระป๋องเก็บทราย โดยอย่าให้ดินติดขึ้นมาด้วย เพราะทรายจะต้องใช้ทดสอบในหลุมอื่นๆ
Tags : Soil Test ราคา